ความสัมพันธ์ไทย-อินโดนีเซีย

Thailand and Indonesia

        ไทยมีความสัมพันธ์กับดินแดนที่เป็นอินโดนีเซียในปัจจุบันมาช้านานโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชวา มีการแลกเปลี่ยนทาง วัฒนธรรมกันอย่างลึกซึ้ง ทั้งด้านวรรณคดี อาหาร เครื่องแต่งกายและดนตรี พระมหากษัตริย์ไทยเคยเสด็จดินแดนที่เป็น ประเทศอินโดนีเซียปัจจุบันถึง 3 พระองค์ กล่าวคือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ เยือน 3 ครั้งในปี พ.ศ. 2414 พ.ศ. 2439 และ พ.ศ. 2444 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ เยือนในปี พ.ศ. 2472 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เยือน (State Visit) ในปี พ.ศ. 2503 โดยได้เสด็จฯ ไปกรุงจาการ์ตา เมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันตก จังหวัดยอกยาการ์ตา และจังหวัดบาหลี

Thailand and Indonesia


        ประเทศไทยและสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2493 (1950) ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองดำเนินไปได้ด้วยดี มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ทั้งในระดับทวิภาคีและกรอบพหุภาคี

        โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือในกรอบอาเซียน องค์การการประชุม
อิสลาม (Organization of Islamic Conference- OIC) และ (Non-Aligned Movement- NAM)






ความสัมพันธ์ที่ดีของสองประเทศนั้น

        มิได้มีเฉพาะระดับรัฐบาลเท่านั้น ในระดับประชาชน-ประชาชนก็มีระดับความสัมพันธ์ที่ดีมาก ภาพพจน์ของไทยในสายตาของ
ชาวอินโดนีเซียคือ

  1. ไทยเป็นประเทศที่ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศมหาอำนาจ (ชาวอินโดนีเซียให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้มากเนื่องจากอินโดนีเซียตกเป็นเมืองขึ้นของเนเธอร์แลนด์ เป็นระยะเวลา 343 ปี)
  2. เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ
  3. สินค้าไทยมีคุณภาพ และมีราคาสูงกว่าสินค้าทั่วไป
  4. และมองว่าคนไทยมีอัธยาศัยดี มีความเป็นมิตรและมีความอ่อนน้อม

อินโดนีเซีย มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ต่อไทยอย่างมากเพราะ

  • เป็นแหล่งพลังงานและทรัพยากรสำคัญ โดยเฉพาะน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ ถ่านหิน การขยายเครือข่ายพลังงาน อาเซียน (ASEAN Power Grid) จะยิ่งเพิ่มศักยภาพการลงทุน/ความร่วมมือในด้านนี้มากขึ้น
  • เป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญของการประมงไทย โดยกว่า 50% ของสินค้าประมงไทยมาจากอินโดนีเซียซึ่งมูลค่าประมาณปีละ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • เป็นตลาดขนาดใหญ่ (237.5 ล้านคน)
  • เป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมสายกลาง (Moderate Islam) ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน ซึ่งไทยต้องเผชิญกับการก่อการร้าย และการใช้ความรุนแรงที่อาศัยศาสนาเป็นเหตุผล บังหน้า อินโดนีเซียจึงเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นการต่อสู้กับประเด็นเหล่านี้ และในการธำรงสันติภาพและความมั่นคง
  • การที่ประธานาธิบดียูโดโยโนได้รับเลือกตั้งสมัยที่ 2 (2552-2557) ทำให้การดำเนินนโยบายและความร่วมมือทวิภาคีดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และในปัจจุบัน อินโดนีเซียกลับมามีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม และการแก้ไขปัญหาข้ามชาติต่างๆ เป็นประโยชน์ในการร่วมมือกับไทยในการพัฒนาความก้าวหน้าของอาเซียนและการแก้ไขปัญหาในภูมิภาครวมทั้งปัญหาพม่าและโรฮิงญา

24 พฤษภาคม 2553
แหล่งข้อมูล: สอท. ณ กรุงจาการ์ตา
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mfa.go.th/web/1312.php?depid=207