รายงานเศรษฐกิจ ปี 2554
ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ อซ. ที่สำคัญ ไตรมาส 2/2554
1. การลงทุน
รัฐบาล อซ. ยังคงเร่งรัดมาตรการเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนให้เป็นรูปธรรมเร็ววันขึ้น โดย Indonesia Investment Coordinating Board (BKPM) ได้ประกาศว่า มาตรการ tax holiday น่าจะได้รับการอนุมัติจาก ก. คลัง อซ. ภายในเดือน ส.ค. 2554 นี้ รมว. คลัง อซ. เปิดเผยอุตสาหกรรม 5 ประเภทตามมาตรการ tax holiday ได้แก่ base metal, oil refinery, renewable energy, machinery และ telecommunication นอกจากนี้ ก. คลัง อซ. กำลังจะพิจารณากฎกระทรวงการคลังฉบับที่ 62/2008 ซึ่งกำหนดให้รัฐบาลลดภาษีเงินได้จากการลงทุน (income tax reductions for investment) ลงร้อยละ 30 ต่อปีให้เป็นระยะเวลา 6 ปี โดยรัฐบาลมีแผนจะเพิ่มประเภทและเขตการลงทุนที่จะได้รับ tax allowance ให้มากขึ้นกว่าเดิม และจะพิจารณาขยายระยะเวลาที่จะได้รับ tax holiday ให้ได้อย่างต่ำ 6 ปี อย่างไรก็ดี การพิจารณากฎหมาย land acquisition ยังไม่เป็นไปตามกำหนดเวลาที่รัฐบาล อซ. เคยกำหนดไว้ว่าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในครึ่งแรกของปี 2554 ทั้งนี้เป็นเพราะความล่าช้าในการพิจารณากฎหมายต่างๆ ในรัฐสภา
2. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
รัฐบาลได้จัดตั้งหน่วยงานสนับสนุนโครงการ PPP ได้แก่ Indonesia Infrastructure Fund Facilities (IIFF) และ PT Sara Multi Infrastruktur (SMI) เพื่อจัด finance ให้กับโครงการ PPP และ Indonesia Infrastructure Guarantee Fund (IIGF) เพื่อให้การค้ำประกันรัฐบาล ที่สำคัญคือจะจัดตั้ง General Service Agency (BLU) เพื่อให้เงินกู้กับการเวนคืนที่ดินสำหรับโครงการสร้างทางด่วน 23 โครงการทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ ปธน. อซ. เร่งผลักดันให้ รมต. กระทรวงต่างๆ บริหารจัดการแผนงานให้มีความคืบหน้ามากขึ้น เพื่อเร่งอัตราการขยายตัวทาง ศก. เนื่องจากรายงานผลการดำเนินงานของ รมต. กระทรวงต่างๆ ซึ่งจัดทำโดย Presidential Working Unit for Development Supervision and Management (UKP4) แสดงให้เห็นว่ายังขาดความคืบหน้า โดยเฉพาะพัฒนาการที่ล่าช้าในโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยเพิ่มการขยายตัวทาง ศก. และหากกฎหมาย land acquisition ยังไม่ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภา รัฐบาลมีแผนจะออกกฎระเบียบพิเศษขึ้นมาแก้ไขปัญหาการดำเนินการเฉพาะหน้าก่อน
4. ภาวะเงินเฟ้อ
Headline inflation ในเดือน มิ.ย. 54 ลดลงเหลือร้อยละ 5.54 (ช่วงเดียวกันของปี 2553 อยู่ที่ร้อยละ 5.98) ลดลงจากเดือน ม.ค. 2554 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 7.02 ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 21 เดือน โดยธนาคารกลาง อซ. เห็นว่า แนวโน้มที่ลดค่ำลงเป็นผลมาจากราคาอาหารที่ลดลง อย่างไรก็ดี core inflation กลับค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ ร้อยละ 4.63 ซึ่งเกือบจะถึงร้อยละ 5 ซึ่งเป็นระดับที่ธนาคารกลาง อซ. กำหนดไว้มิให้เกินภายในปีนี้ หากค่าเงินรูเปียห์ยังคงแข็งตัวและราคาในตลาดโลกลดลงจะทำให้ core inflation ไม่เกินเป้าหมายร้อยละ 5 ตามที่ธนาคารกลาง อซ. กำหนดและคงจะยังไม่กระทบการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งปรับไปแล้วเมื่อเดือน ก.พ. 2554 ที่ผ่านมา
5. การบริหารการคลัง
รัฐบาลมีแผนจะเพิ่มปริมาณโควตาน้ำมันอุดหนุน เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันอุดหนุนโดยรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และราคาน้ำมันที่ไม่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันอุดหนุนมากขึ้นและส่งผลให้ปริมาณไม่เพียงพอ (ปริมาณการใช้น้ำมันอุดหนุนในไตรมาสแรกของปี 2554 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 7) หากรัฐบาลยังคงนโยบายอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็จะทำให้งบประมาณสูงขึ้นจากเดิมอีก ทั้งนี้ นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ อซ. เห็นว่าน่าจะใช้งบประมาณดังกล่าวในการลงทุนและพัฒนาการขุดเจาะน้ำมันรวมทั้งการค้นคว้าวิจัยการใช้พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานทางเลือกซึ่ง อซ. ก็มีศักยภาพในการพัฒนา
รัฐบาลและคณะกรรมาธิการ 7 ซึ่งกำกับดูแลภาคพลังงานได้ตกลงให้ดำเนินนโยบายให้เงินอุดหนุนกระแสไฟฟ้าต่อไปในปี 2555 แต่จะจัดสรรงบประมาณให้น้อยกว่าที่รัฐบาลได้ยื่นข้อเสนอ ทั้งนี้ ก. ทรัพยากรพลังงานและแร่ธาตุจะต้องกระตุ้นให้ บ. PLN ซึ่งเป็น บ. รัฐวิสาหกิจผลิตกระแสไฟฟ้าของรัฐบาลหันไปผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานก๊าซธรรมชาติแทนน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งราคาปรับตัวสูงขึ้นทุกขณะ ในอนาคตรัฐบาลคาดว่ายอดการจ่ายกระแสไฟฟ้าในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นจากปี 2554 ร้อยละ 13 และกำหนดให้ sales margin สำหรับ PLN ในปีหน้าที่ร้อยละ 7 (ปี 2554 เป็นร้อยละ 8)
ในไตรมาสนี้มีการประชุมพิจารณาปรับงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2554 โดยประเด็นสำคัญที่น่าจะ บรรเทาความตึงเครียดในอนาคตที่มาจากงบประมาณแผ่นดินที่เพิ่มขึ้นจากรายการเงินอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิงและไฟฟ้า ได้แก่ (1) แนวโน้มที่รัฐบาล อซ. จะจัดเก็บภาษีเงินได้รวมทั้งภาษีนำเข้า/ส่งออกได้มากขึ้นประมาณหนึ่งเท่าตัว โดย ก. คลัง อซ. ได้ปรับตัวเลขเป้าหมายการจัดเก็บภาษีเงินได้ให้สูงขึ้นจากเดิมที่เคยกำหนดไว้ในแผนรายรับรายจ่ายรัฐบาลเพราะในครึ่งแรกของปี 2554 รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้เกินเป้าหมายเพราะราคาสินค้าประเภท commodities ที่ อซ. ส่งออกในตลาดโลก ได้แก่ ถ่านหิน น้ำมันปาล์มดิบ ตะกั่ว โกโก้และยางพาราปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ก. คลัง อซ. ได้ปรับตัวเลขสมมติฐานทาง ศก. เพิ่มขึ้น ดังนี้คือ อัตราการขยายตัวทาง ศก. ร้อยละ 6.5 อัตราเงินเฟ้อร้อยละ 6 และอัตราแลกเปลี่ยนเงินรูเปียห์ต่อดอลลาร์สหรัฐที่ 8,800 รูเปียห์/ดอลลาร์สหรัฐ (2) การวางแผนโครงการเกษียณอายุก่อนราชการโดย ก. คลัง อซ. เพื่อลดค่าใช้จ่ายรัฐบาลโดยค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินเดือนของข้าราชการ อซ. คิดเป็นร้อยละ 16 และกว่าร้อยละ 25 ของงบประมาณส่วนภูมิภาคเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเงินเดือนพนักงานส่วนภูมิภาคและนำไปใช้ในการพัฒนาส่วนภูมิภาคน้อยมาก ทั้งนี้ แผนดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ Ministry of Administrative Reforms และ State Civil Servant Administration Agency โดย ก. คลัง อซ. คาดว่าการลดจำนวนข้าราชการจะช่วยสร้าง Productivity ในการทำงานในกลุ่มข้าราชการมากขึ้นและน่าจะช่วยลดความค่าใช้จ่ายรัฐบาลได้ส่วนหนึ่งด้วย
แหล่งข้อมูล: สอท. ณ กรุงจาการ์ตา